ธัญพืช คือ พืชที่ปลูกเพื่อนำเมล็ดมาบริโภค ซึ่งเมล็ด อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น เส้นใย ไฟเบอร์ วิตามิน และสารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ อีกหลายชนิด ซึ่งในปัจจุบัน เทรนการรับประทานอาหารเพื่อรักษาสุขภาพกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ธัญพืชหลายชนิดได้รับความนิยมในการบริโภค สำหรับกลุ่มคนที่รักสุขภาพ โดยมีการนำมาแปรรูปเป็นอาหารคลีนเมนูต่างๆ มากมาย
ธัญพืช มีอะไรบ้าง
ธัญพืชที่ได้รับความนิยมในการรับประทานมีอยู่หลายชนิดกัน แต่ที่ได้รับความนิยมมากมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
1. ถั่วลิสง
ถั่วลิสง เป็นธัญพืชที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งในถั่วลิสงอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด เช่น โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, แมกนีเซียม, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก, โครเมียม, เลซิติน, ไนอะซิน
ประโยชน์ของถั่วลิสง
มีส่วนช่วยในการบำรุงปอด กระเพาะอาหาร เสริมความจำ บำรุงสมอง บำรุงกระเพาะ ม้าม ช่วยลดความดันโลหิต และป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
2. ถั่วเหลือง
ถั่วเหลือง เป็นธัญพืชอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการรับประทานกันมาก มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายดังนี้
โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, วิตามินเอ, วิตามินบี1 บี2 บี6 บี12, วิตามินซี, วิตามินดี, วิตามินอี, แมกนีเซียม, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก, ไนอะซิน, เลซิติน, เส้นใยอาหาร
ประโยชน์ของถั่วเหลือง
ถั่วเหลือง มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของ กระดูก ช่วยลดไขมันและคอเรสเตอรอลในร่างกาย
3. ถั่วเขียว
ถั่วเขียว เป็นธัญพืชที่นิยมนำมาแปรรูปเป็นขนมได้หลากหลายชนิด เช่น ถั่วเขียวต้มน้ำตาล เต้าส่วน ขนมถั่วกวน เป็นต้น ในถั่วเขียวมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่หลายชนิด เช่น โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, แมกนีเซียม, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก, เส้นใยอาหาร
ประโยชน์ของถั่วเขียว
ถั่วเขียวช่วยในการบำรุงสายตา บำรุงตับ ขับของเหลวในร่างกาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ช่วยลดความดันโลหิต
4. ถั่วแดง
ถั่วแดง เป็นธัญพืชที่นิยมนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ถั่วแดงต้ม, ถั่วแดงกวน, ขนมโมจิไส้ถั่วแดง, เค้กโรลชาเขียวถั่วแดง และอีกหลากหลายเมนู ในถั่วแดงประกอบด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างชนิดด้วยกัน ดังนี้
โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน แมกนีเซียม, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก, วิตามิน, วิตามินบี1, วิตามินบี2, เส้นใยอาหาร
ประโยชน์ของถั่วแดง
ถั่วแดง มีคุณค่าทางอาหาร และสรรพคุณในด้านบำรุงสุขภาพดังนี้ ช่วยบำรุงระบบประสาท บำรุงหัวใจ ลดอาการใจสั่น ลดอาการเหน็บชา บรรเทาปวดประจำเดือนผิดปกติ ช่วยขับพิษ ขับของเหลวในร่างกาย และยังช่วยบรรเทาอาการปวดตามข้อต่อกระดูก เป็นต้น
5. ถั่วดำ
ถั่วดำ เป็นธัญพืชที่นำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูเช่นเดียวกับธัญพืชตระกูลถั่วชนิดอื่นๆ เช่น ถั่วดำต้มกะทิ ขนมญี่ปุ่นโดรายากิไส้ถั่วดำ ขนมฝรั่งบราวนี่ไส้ถั่วดำ หรือนำมาทำเป็นอาหารจีนอย่างซาลาเปาไส้ดำ, ตือคาโค ขนมขาหมู ในถั่วดำมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้ โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, วิตามินบี1, วิตามินบี2, วิตามินบี6, ไนอะซิน, แมกนีเซียม, โฟเลต, เส้นใยอาหาร
ประโยชน์ของถั่วดำ
ถั่วดำ มีคุณค่าทางอาหาร และช่วยบำรุงสุขภาพในด้านต่างๆ ดังนี้ บำรุงเลือด บำรุงสายตา ขจัดพิษ บำรุงไต ขับลมและขับของเหลวในร่างกาย แก้ร้อนใน และช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
6. ลูกเดือย
ลูกเดือย ธัญพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกับข้าว เป็นพืชที่มีเส้นใยอาหารสูง เมล็ดมีลักษณะสีขาว กลมๆ รีๆ ลูกเดือยมีทั้งชนิดที่รับประทานได้ และชนิดที่รับประทานไม่ได้ ชนิดที่ใช้รับประทานจะมีเปลือกอ่อน เรียกว่า เดือยกิน จัดเป็นธัญพืชที่คุณค่าทางอาหารสูง ประกอบด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายดังนี้ วิตามินเอ, วิตามินบี1, วิตามินบี2, วิตามินอี, ธาตุแคลเซียม, ธาตุฟอสฟอรัส
นอจากจากนี้ยังมี กรดอะมิโนหลายชนิดที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย เช่น กรดกลูตามิก ลิวซีน อะลานีน โปรลีน วาลีน ฟินิลอะลานีน ไอโซลิวซีน อาร์จีนีน และยังมีกรดไขมันจำเป็นชนิดที่ไม่อิ่มตัว อย่างเช่น กรดลิโนเลอิก กรดโอเลอิก และกรดไขมันชนิดอิ่มตัว อย่างเช่น ปาลมิติก และสเตียริก
ประโยชน์ของลูกเดือย
ลูกเดือยมีคุณค่าทางอาหารและช่วยบำรุงร่างกายในด้านต่างๆ ดังนี้ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยในการย่อยอาหารและบำรุงกระเพาะอาหาร ป้องกันโรคเหน็บชา แก้อาการสตรีตกขาวมากกว่าปกติ
7. แมงลัก
แมงลัก เป็นพืชในตระกูลกะเพรา และโหระพา ลัษณะของต้นจะคล้ายกับต้นกะเพรา นิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหาร และเครื่องดื่มหลายชนิดด้วยกัน เช่น แกงเลียง, น้ำขิง, น้ำเต้าหู้ ในแมงลัก ประกอบด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายของเราดังนี้
แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก, วิตามินเอ, ไทอามีน, ไรโบฟลาวิน, ไนอาซิน, วิตามินซี, เส้นใยอาหาร, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, โปรตีน, พลังงาน
ประโยชน์ของแมงลัก
แมงลัก ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ เป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะช่วยทำให้การดูดซึมของน้ำตาลลดลง ใบแมงลักมีวิตามินเอสูง การกินใบแมงลักเป็นประจำช่วยบำรุงสายตา
8. ข้าวหอมนิล
ข้าวหอมนิล หรือ ข้าวสีนิล หรือ ข้าวก่ำ เป็นข้าวสายพันธ์ุเดียวกับข้าวกล้อง ได้รับการพัฒนาปรับปรุงสายพันธ์ุมาจากข้าเหนียวดำต้นเตี้ยของประเทศจีน มีประโยชน์ให้คุณค่าทางด้านโภชนาการสูง ในปัจจุบันมีการนำข้าวหอมนิล ไปแปรรูปเป็นขนมต่างๆ หลายชนิด เช่น แคร็กเกอร์ คุกกี้ ในข้าวหอมนิลมีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายดังนี้ วิตามิน B1, วิตามิน B2, วิตามิน B, สารต้านอนุมูลอิสระ สูงกว่าข้าวกล้องธรรมดาถึง 7 เท่า, คาร์โบไฮเดรต, เส้นใยอาหาร, สาร Anthocyanins สารจากธรรมชาติช่วยทำให้เส้นผมดกดำ, ธาตุเหล็ก สูงกว่าข้าวกล้องธรรมดาถึง 30 เท่า
ประโยชน์ของข้าวหอมนิล
ข้าวหอมนิล มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้ ช่วยการกนะตุ้นการทำงานของระบบประสาทในสมอง ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยเรื่องของการทำงานในระบบประสาท และระบบผิวหนัง กระตุ้นให้ผมสีเข้มขึ้น ช่วยชะลอผมหงอกก่อนวัยอันควร ช่วยการไหลเวียนของเส้นเลือดฝอย ลดไขมันอุดตันในเส้นเลือด
9. งาดำ
งาดำ เป็นธัญพืช ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ได้รับความนิยมในการรับประทานสำหรับกลุ่มคนรักสุขภาพ ในงาดำประกอบไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้ วิตามินบีรวม, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, โซเดียม, ฟอสฟอรัส, สังกะสี, หล็ก
ประโยชน์ของงาดำ
งาดำ ช่วยซ่อมแซมและบำรุงผิว ทำให้ผิวไม่เหี่ยวแห้ง ช่วยให้ระบบการทำงานของหัวใจแข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ งาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถป้องกันการเกิดมะเร็ง งาดำมีธาตุเหล็กสูง จึงช่วยบำรุงเลือด
10. ข้าวโพด
ข้าวโพด เป็นธัญพืชที่ให้พลังงานสูงเนื่องจากมีคาร์โบไฮเดรตอยู่มาก นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้ วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, เบต้าแคโรทีน, โฟเลต
ประโยชน์ของข้าวโพด
ข้าวโพด มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยในเรื่องการชะลอความเสื่อมของระบบร่างกา ช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดความดัน และลดระดับคอเรสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ช่วยให้ระบบขับถ่าย และลำไส้ให้ทำงานได้ดีขึ้น